สารบัญ
- ทำความรู้จักประกันชีวิต
- ประกันสุขภาพคืออะไร? ความคุ้มครองเบื้องต้นมีอะไรบ้าง?
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ทำให้คนไทยหันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น รวมไปถึงการให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์หรือบริการสุขภาพ แม้ว่าเราจะเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลของจำนวนการซื้อกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกัน หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่เริ่มสนใจในการทำประกันให้กับตัวเอง แต่ยังสับสนเกี่ยวกับความแตกต่างของประกันชีวิตและประกันสุขภาพอยู่ มาหาคำตอบได้ในบทความนี้
ทำความรู้จักประกันชีวิต
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจำกัดความหมายของ ‘การประกันชีวิต’ ว่าเป็นการที่บริษัทประกันชีวิตจ่ายเงินชดเชยรายได้ที่ต้องสูญเสียไปอันเนื่องมาจาก การตาย ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงหรือชราภาพแก่ผู้เอาประกัน หรือผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งการประกันชีวิตพื้นฐานมี 4 แบบ ได้แก่
- แบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance) คือแบบประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันตลอดชีวิต หากผู้เอาประกันเสียชีวิต บริษัทจะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้รับผลประโยชน์
- แบบสะสมทรัพย์ (Saving Insurance) คือแบบประกันชีวิตที่บริษัทจะจ่ายเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยใน 2 กรณี คือ จ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตหรือได้รับเงินคืนเมื่ออายุครบสัญญา
- แบบชั่วระยะเวลา (Term Life Insurance) คือแบบประกันชีวิตที่บริษัทจะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้รับผลประโยชน์เมือผู้เอาประกันเสียชีวิตภายในระยะเวลาเอาประกัน แต่จะไม่มีการจ่ายเงินคืนหากครบสัญญาประกันภัย
- แบบเงินได้ประจำ (Annuity Insurance) คือแบบประกันชีวิตที่บริษัทจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้ผู้เอาประกัน โดยเงินดังกล่าวจะมีจำนวนเท่ากันในแต่ละเดือน โดยจะจ่ายนับตั้งแต่ผู้เอาประกันเกษียณอายุหรือมีอายุครบ 50 หรือ 60 ปีตามเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์
ประกันสุขภาพคืออะไร? ความคุ้มครองเบื้องต้นมีอะไรบ้าง?
‘การประกันสุขภาพ’ จะมีความแตกต่างจากประกันชีวิต เพราะเป็นการประกันสุขภาพเป็นการที่บริษัทประกันภัยจ่ายค่าชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลที่เกิดจากการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุแก่ผู้เอาประกันภัย ซึ่งการประกันสุขภาพสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
- การประกันสุขภาพส่วนบุคคล เป็นการประกันภัยเฉพาะบุคคลเดียว
- การประกันภัยแบบกลุ่ม เป็นการประกันภัยเมื่อมีกลุ่มบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปในกรมธรรม์
ประกันสุขภาพทั้ง 2 กลุ่มก็ให้ความคุ้มครองหลักที่เหมือนกัน ดังนี้
ผลประโยชน์สำหรับผู้ป่วยใน (IPD) ให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายผู้เอาประกันภัยเมื่อต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากการเจ็บป่วยและบาดเจ็บ ได้แก่ ค่าห้องและค่าอาหาร ค่าบริการทั่วไป และค่าใช้จ่ายในกรณีที่มีการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน ค่าผ่าตัด ค่าปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการผ่าตัด ค่าแพทย์เยี่ยม ค่ารถพยาบาลและค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นต้น
สำหรับผลประโยชน์สำหรับผู้ป่วยในเหมาะกับ ‘คนที่ต้องการความคุ้มครองเมื่อเจ็บป่วยหนัก’ หากวันใดวันนึงต้องเข้ารับการผ่าตัด หรือให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลก็ไม่ต้องกังวลและไม่ต้องแบกรับค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก เพราะมีความคุ้มครองจากผลประโยชน์สำหรับผู้ป่วยในอยู่
ผลประโยชน์สำหรับผู้ป่วยนอก (OPD) ให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล หรือคลินิก เมื่อผู้เอาประกันเจ็บปวยหรือได้รับอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยและเข้ารับการรักษาโดยไม่ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เช่น ค่าแพทย์ ค่ายา เป็นต้น
หากคุณเป็น ‘คนที่เจ็บป่วยบ่อย’ ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัด ท้องเสีย แพ้อากาศอยู่เสมอ ผลประโยชน์สำหรับผู้ป่วยนอกจะเหมาะกับคุณเลยทีเดียว เพราะจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแต่ละครั้งได้
นอกจากนี้ยังมีผลประโยชน์เพิ่มเติมอื่น ๆ ที่ผู้เอาประกันสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองได้อีก เช่น ค่าคลอดบุตร ค่ารักษาฟัน การชดเชยค่าใช้จ่ายจากการบริการโดยพยาบาลพิเศษขณะอยู่ในโรงพยาบาลหรือที่บ้านภายหลังจากการรักษาตัวในโรงพยาบาลตามคำสั่งของแพทย์ และการรักษาอาการบาดเจ็บที่มีค่าใช้จ่ายสูงอีกด้วย
ในการทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ผู้เอาประกันควรศึกษาและอ่านรายละเอียดของแผนประกันดังกล่าวอย่างละเอียด ส่วนแผนประกันสุขภาพควรเลือกซื้อแผนที่ให้ความคุ้มครองที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองมากที่สุด สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันสุขภาพ ลูม่ามีความเชี่ยวชาญในด้านประกันสุขภาพและสามารถแนะนำแผนประกันที่เหมาะสมกับคุณ คนในครอบครัว รวมไปถึงพนักงานในบริษัทของคุณได้ ปรึกษาเจ้าหน้าที่วันนี้เพื่อทราบรายละเอียดเพิ่มเติมที่ LINE @luma หรือคลิกที่นี่